บาคาร่า รู้จัก “พาราควอต” สารมรณะที่ทั่วโลกแบน แต่ไทยยังอนุญาตให้ใช้ต่อ

บาคาร่า รู้จัก “พาราควอต” สารมรณะที่ทั่วโลกแบน แต่ไทยยังอนุญาตให้ใช้ต่อ

เรื่องการเกษตรและสาธารณสุขที่น่าจับตามองและเฝ้าระวัง บาคาร่า ของประเทศไทยในขณะนี้ คือการที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติ 16 ต่อ 5 เสียง ไม่ยกเลิกการใช้สารเคมี “พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต” โดยให้ใช้กับพืช 6 ประเภท คือ ยางพารา ปาล์ม มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด และไม้ผลที่ขึ้นทะเบียน และให้พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งใน 2 ปีข้างหน้า เว้นแต่สามารถหาสารเคมีอื่นทดแทนก่อนได้

ทั้งนี้ “พาราควอต” เป็นสารเคมีกำจัดวัชพืช รู้จักในชื่อทางการค้าว่า ‘กรัมม็อกโซน’ มีพิษเฉียบพลันสูงต่อมนุษย์ ไม่มียาถอนพิษ และมีผลกระทบเรื้อรังต่อสุขภาพ เช่น ก่อโรคพาร์กินสัน สมองเสื่อม ที่น่ากังวลคือแม้ใส่อุปกรณ์ป้องกันก็ยังสามารถผ่านเข้าสู่ร่างกายได้โดยการสัมผัสทางผิวหนัง ทั้งยังพบตกค้างในอาหาร สิ่งแวดล้อม และมนุษย์จากการวิจัยของหลายสถาบัน นอกจากนี้พาราควอตยังสามารถผ่านจากมารดาไปสู่ตัวอ่อนในครรภ์

ในปัจจุบันมี 53 ประเทศทั่วโลกที่แบนพาราควอต แม้แต่ประเทศผู้พัฒนา ประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ และประเทศเจ้าของผลิตภัณฑ์

 คลอร์ไพริฟอส เป็นสารเคมีกำจัดศัตรูพืชอีกหนึ่งชนิดที่ส่งผลกระทบต่อแม่และเด็กได้ ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก ทำให้มีอาการสมาธิสั้น ปัญหาด้านความบกพร่องของพัฒนาการแบบรอบด้าน ส่งผลต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อ มีแนวโน้มเป็นมะเร็งลำไส้ได้

 ไกลโฟเซต เป็นสารเคมีกำจัดวัชพืช รู้จักในชื่อทางการค้าว่า ‘ราวด์อัพ’ สารเคมีชนิดนี้สามารถส่งผลกระทบต่อแม่และเด็กได้ องค์การอนามัยโลก ได้เผยแพร่รายงานในปี 2558 โดยกำหนดให้ไกลโฟเซตเป็น ‘สารที่น่าจะก่อมะเร็ง’ (probably carcinogenic to humans) ในมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีข้อค้นพบว่าไกลโฟเซตสัมพันธ์กับการเกิดโรคหลายชนิดเพิ่มมากขึ้น เช่น เบาหวาน โรคอ้วน อัลไซเมอร์ และทำให้เซลล์รกได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน

ในประเทศไทยพบไกลโฟเซตปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรพบการตกค้างของไกลโฟเซตในน้ำดื่มบรรจุขวดที่ผลิตในจังหวัดน่านเฉลี่ย 10.1 ไมโครกรัมต่อลิตร และพบในน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภค 11.26 ไมโครกรัมต่อลิตร โดยมีระดับการตกค้างในหลายตัวอย่างที่เกินค่ามาตรฐานของบางประเทศ การตกค้างของไกลโฟเซตในสิ่งแวดล้อมและในร่างกายของแม่และทารกเป็นสิ่งที่น่ากังวล เนื่องจากมีงานวิจัยชี้ว่าการตกค้างแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อได้

ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตที่ปลอดภัยให้กับตัวเองและลูกหลาน การต่อสู้ที่เข้มแข็งของภาคประชาสังคมได้ทำให้รัฐบาลต้องกลับมาฟังเสียงของประชนชน ถ้าเราไม่ตระหนักถึงอันตรายต่อตนเองที่ได้รับจากสารเหล่านี้ จะส่งผลร้ายทั้งต่อสุขภาพตนเองและลูกหลานในวันข้างหน้า

พลทหารโดนจ่าต่อยคิ้วแตก เพราะต่อกรงหมาให้นายไม่เสร็จ!

วันที่ 15 ก.พ. ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ AunAun New Perfect  ได้โพสต์ภาพพลทหารรายหนึ่งพร้อมข้อความระบุว่า

เห็นข่าวเยอะมากสำหรับพลทหารโดนซ้อมทำร้ายร่างกายและไม่คิดจะมาเกิดกับน้องตัวเอง เพียงเพราะทำตามที่สั่งช้าไป เพราะมีอย่างอื่นให้ทำอยู่ แต่ถูกจ่าคนนึงเดินมาต่อว่าและต่อยจนมีแผลตามภาพ

อยากถามว่า”มันมีสิทธิอะไร มาทำร้ายคนอื่นขนาดนี้ ถ้าวันนึงมันทำมากกว่านี้ใครจะรับผิดชอบ บอกและเตือนกันด้วยคำพูดก็พอมั้ย ครั้งแรกจ่าคนนี้เคยดึงคอเสื้อและบีบคอมาแล้ว #กรณีนี้พลทหารสามารถต่อสู้เพื่อป้องกันตัวได้มั้ย #และทำแล้วจะถูกทำโทษวินัยหรือเปล่าทั้งที่เราเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน #และเจ็บตัวแบบนี้จ่าคนที่ทำร้ายควรรับผิดชอบมั้ย #ทหารดีๆมีก็เยอะทำไมน้องเราต้องมาเจอแบบนี้ด้วย

 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ AunAun New Perfect ได้ออกมาระบุเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์เมื่อวานที่พลทหารถูกจ่าคนขับรถให้หัวหน้าทำร้ายร่างกาย เหตุเพราะ “หัวหน้าหรือนายสั่งจ่าว่าให้มาบอกหรือสั่งพลทหารอีกทีว่าให้ทำกรงหมาให้ตั้งแต่วันจันทร์ ทางด้านพลทหารรับทราบ แต่ยังไม่ได้ทำเพราะแต่ละวันที่อยู่บ้านนายก็ต้องทำทุกอย่าง และต้องเร่งทำสิ่งที่สำคัญกว่าก่อน เช่นคนที่บ้านนายให้ไปซื้อของซื้ออาหารหมาก็ต้องไปนะตอนนั้น อีกหลายๆอย่าง นี่คือเหตุผลที่ทำช้า และคิดจะทำเมื่อวานช่วงบ่ายเพราะเคลียร์งานเสร็จทุกอย่างแล้ว ไม่ได้คิดจะอิดออดต่อรองไม่ทำค่ะ”

หลังจากที่บอกหัวหน้า ซึ่งเป็นนายที่พลทหารและจ่าคนขับรถอยู่รับทราบ.ถึงเรื่องราวทั้งหมดและพลทหารได้อธิบายสาเหตุที่ทำตามคำสั่งช้า โดยไม่ได้คิดจะอิดออด ต่อรองที่จะทำแต่อย่างใด หัวหน้าก็เข้าใจ และได้กล่าวตักเตือนฝ่ายจ่าให้ ส่วนฝ่ายจ่าได้เข้ามาพูดจาดีเหมือนปกติ(บ้างทีก็นะ) ครั้งนี้ทางเราก็จะจำเป็นบทเรียน

ที่เราโพสต์เพราะ กลัวว่าจ่าคนนี้จะเคยมือ ครั้งต่อไปจะใช้อารมณ์มาลงที่พลทหารอีกและกลัวการสูญเสียจึงคิดป้องกันเก็บไว้เป็นหลักฐานว่าครั้งนึงมันเคยเกิดขึ้นเพียงเพราะอารมณ์ ไม่มีใครอยากเห็นคนที่เรารักเจ็บตัวโดยไม่สมเหตุสมผลหรอกค่ะ

#คิดง่ายๆขนาดจ่าทำร้ายร่างกายพลทหารถึงขั้นเลือดออก #แต่การลงโทษแค่ตักเตือน #แต่พลทหารทำตามคำสั่งช้าไปกับลงไม้ลงมือ เหตุผลสมควรมั้ย นี่คือสิ่งที่ทางเราคิดค่ะ ไม่ว่าจะยังไงขอขอบคุณทุกๆความคิดเห็นที่เข้ามาแสดงนะค่ะ ยินดีรับคำคิดเห็นของทุกคนเพื่อไปคิดค่ะ

ถามว่าการกำหนดเช่นนี้ถือเป็นการพัฒนาหรือส่งเสริมการรับรู้ด้านประชาธิปไตยให้แก่ประชาชนมากน้อยแค่ไหน และมีเหตุผลอะไรในการทำเช่นนั้น ทั้งที่ในการจัดการเลือกควรจะเป็นที่เปิดเผย และสนับสนุนให้แต่ละพรรคการเมืองหรือผู้สมัครแต่ละพรรคการเมืองสามารถพูดนโยบายได้อย่างเต็มที่ และเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสตัดสินใจอนาคตของเขาว่าจะเลือกอย่างไร ควรจะฝากความหวังไว้กับใคร บาคาร่า